เล่นพนันแบบประมาท ระวังโดนหลอก

 

ในช่วงปัญหาภาวะเศรษฐกิจแย่แบบนี้  จะมีคนกลุ่มหนึ่งที่หาช่องทางที่จะเอาเปรียบโดยหลอกคนเพื่อเอาเงินอย่างแนบเนียน เมื่อรู้อีกทีเงินในบัญชีเราก็หายไปหมดแล้ว ยิ่งเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่เปิดใหม่ หลายคนหลงเชื่อใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไป ก็อาจจะสูญเงินโดยไม่ทันได้เข้าเล่นพนันออนไลน์ด้วยซ้ำ

เพื่อให้เรารู้ทัน และตั้งรับกับพวกมิจฉาชีพที่อาจแฝงตัวอยู่ในมุมมีด  มาดูภัยทางการเงินที่ส่งสัญญาณเตือนว่า กำลังจะถูกมิจฉาชีพหลอก วันนี้เราจะมาดูกันว่า กลุ่มคนที่หลอกนักเล่นพนันออนไลน์ วิธีแบบไหนที่มิจฉาชีพชอบใช้

– อ้างว่าเป็นสถาบันการเงิน ในรูปแบบของ call center ส่งข้อความ SMS, E-mail หรือโซเชี่ยลมีเดียต่าง ๆ   วิธีก็หลอกก็จะต่างกันไป  เช่น  อ้างว่าสามารถช่วยชำระหนี้ได้ บัญชีถูกแฮกให้ติดต่อธนาคารด่วน   หรือเพียงคลิกที่ลิงก์ เป็นต้น

– ส่งข้อความเนื้อหาชวนสงสัยให้อยากรู้หรืออีกแบบคือ  กระตุ้นความอยาก เช่น  ยินดีด้วยคุณคือผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่  หรือ  แจกเครดิตเข้าเล่นในจำนวนที่มากเกินไป เป็นต้น วิธีเหล่านี้ทำให้คนที่ต้องการเล่นพนันออนไลน์แล้วอยากมีทุนเล่นฟรีๆ ที่สำคัญคือ เว็บพนันออนไลน์ส่วนใหญ่มักจะแจกเครดิต100บาทเท่านั้น

– ใช้ URL หน้าตาแปลก ๆ มิจฉาชีพส่วนใหญ่จะสร้างเว็บไซต์ปลอมเพื่อให้คนกดเข้าไปแล้วจะดึงข้อมูลสำคัญมา ซึ่ง URL ที่ส่งมาดูไม่น่าเชื่อถือมีแต่ตัวเลขเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น เว็บพนันออนไลน์ที่มีชื่อเว็บไซต์กับข้อมูลลิงก์ไม่ตรงกัน

– แสร้งว่าเป็นคนรู้จัก วิธีที่เห็นบ่อยคือการสร้าง user ปลอมขึ้นมา แล้วหลอกว่าสร้างโปรไฟล์ขึ้นมาใหม่ของเก่าเข้าไม่ได้  ถ้าไม่เอะใจก็จะโดนหลอกเอาข้อมูลได้ง่าย และก็จะนำข้อมูลพวกนี้หลอกต่อไปเรื่อย ๆ

จุดสังเกตที่บอกว่าป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมา

– ข้อความไม่มีเนื้อหารายละเอียด แต่พยายามโน้มน้าวให้คลิกกดที่ลิงก์

– URL ไม่ขึ้นด้วย https://  ถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่เป็นทางการ หรือไม่สามารถบอกได้ว่าเว็บไซต์นั้นจดทะเบียนที่ประเทศใด

– กรณีเป็นรูปบุคคล จะมาในรูปแบบเพื่อนโดยเพิ่มเพื่อนเข้ามาแล้วอ้างสารพัดให้เราหลงเชื่อ

– มีการใช้คำผิดสะกดคำผิดบ่อย

 

วิธีป้องกันภัยไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

– ตั้งสติ ไม่ให้ข้อมูลง่าย ๆ แม้ว่าจะเป็นคนรู้จัก หรือสนิทก็ตาม

– อย่าใจร้อนรีบกรอกข้อมูลส่วนตัว  ถ้ามีให้ยืนยันการสมัคร  หรือได้รับรางวัลผู้โชคดี  อ้างว่ามาจากสถาบันการเงินให้โทรเช็คเพื่อความแน่ใจก่อน

– สังเกตลิงก์ที่แนบมากับข้อความเสมอ วิธีเช็กคือ  เว็บไซต์ของสถาบันการเงินจะต้องขึ้นต้นด้วย https:// เพียงเท่านั้น

– ไม่ใช้ wifi สาธารณะทำธุรกรรมการเงินออนไลน์

– จำกัดการถอนเงินในแต่ละวัน

– เปลี่ยนรหัสใหม่ทุก ๆ  3 – 6  เดือน

 

สถานการณ์แบบี้ไม่ควรไว้ใจใครง่าย ๆ  และไม่ควรบอกข้อมูลส่วนตัวกับใคร พร้อมตั้งข้อสงสัยสิ่งที่เกิดขึ้น  ไม่ประมาทและมีสติถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก